บัญชีเจ้าหนี้อัตโนมัติ

บัญชีเจ้าหนี้ (Accounts Payable) คืออะไร? ระบบที่ช่วยให้การทำงานเป็นอัตโนมัติ

หลายองค์กรมุ่งสู่การทำงานแบบ Automation การทำงานบัญชีเจ้าหนี้อัตโนมัติ (Automated Accounts Payable) กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพของฝ่ายบัญชีและการเงินให้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และโปร่งใสมากขึ้น ในอดีตงานบัญชีเจ้าหนี้มักเกี่ยวข้องกับเอกสารจำนวนมาก เช่น ใบสั่งซื้อ ใบกำกับภาษี และใบแจ้งหนี้ที่ต้องตรวจสอบและบันทึกด้วยมือ แต่เมื่อมีเทคโนโลยีอย่างเช่น RPA, OCR และ AI Automation เข้ามาช่วยงาน กระบวนการทำงานของฝ่ายบัญชีก็สะดวกขึ้นและเป็นอัตโนมัติ

บัญชีเจ้าหนี้คืออะไร

บัญชีเจ้าหนี้ คือกระบวนการบันทึกและจัดการภาระหนี้ของกิจการที่เกิดจากการซื้อสินค้าหรือบริการที่ยังไม่ได้ชำระเงินทันที เช่น การซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์แบบเครดิตเทอม กำหนดจ่ายเงินภายใน 30 วันหลังจากได้รับสินค้า การบริหารบัญชีเจ้าหนี้อย่างมีระบบช่วยให้กระแสเงินสดของบริษัทมีความสมดุล รู้กำหนดวันจ่ายเงินล่วงหน้า และสามารถต่อรองเงื่อนไขการชำระเงินกับผู้ขายได้ดีขึ้น

บทบาทของบัญชีเจ้าหนี้ในระบบบัญชีการเงิน

บทบาทของบัญชีเจ้าหนี้ในระบบบัญชีการเงิน

  • ควบคุมภาระหนี้ของกิจการ
  • สนับสนุนการบริหารกระแสเงินสด
  • ควบคุมเครดิตเทอมและความสัมพันธ์กับผู้ขาย
  • สนับสนุนข้อมูลสำหรับการปิดงบการเงิน
  • ตรวจสอบและป้องกันความผิดพลาดทางการเงิน

ความแตกต่างระหว่างบัญชีเจ้าหนี้และบัญชีลูกหนี้

บัญชีเจ้าหนี้ (AP) และบัญชีลูกหนี้ (AR) ทั้ง 2 ฝ่ายเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเงินและบัญชีของบริษัท แต่มีหน้าที่และความหมายที่แตกต่างกัน

บัญชีเจ้าหนี้ หมายถึงเงินที่บริษัทต้องจ่ายให้กับผู้ขายหรือผู้ให้บริการ หลังจากได้รับสินค้าหรือบริการมาแล้วแต่ยังไม่ได้ชำระเงิน ซึ่งถือเป็นภาระหนี้สินของกิจการที่ต้องชำระภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน

ในทางกลับกัน บัญชีลูกหนี้ หมายถึงเงินที่ลูกค้าต้องจ่ายให้กับบริษัท หลังจากที่บริษัทขายสินค้าหรือบริการไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งถือเป็นรายได้รอการชำระและจะถูกบันทึกเป็นสินทรัพย์ของกิจการ

ความแตกต่างระหว่างบัญชีเจ้าหนี้และบัญชีลูกหนี้

หน้าที่ของบัญชีเจ้าหนี้

หน้าที่หลักของฝ่ายบัญชีเจ้าหนี้ ได้แก่ ตรวจเอกสารจากผู้ขาย การตั้งหนี้เจ้าหนี้ จัดการเอกสารภาษี และควบคุมการจ่ายเงิน โดยข้อมูลต้องแม่นยำ ตรวจสอบได้ และชำระเงินตรงตามเงื่อนไข

ตรวจเอกสารจากผู้ขาย

เอกสารจากผู้ขายที่ฝ่ายบัญชีต้องตรวจสอบ ได้แก่

  • ใบสั่งซื้อ (PO) เพื่อยืนยันว่ามีการอนุมัติสั่งซื้ออย่างเป็นทางการ
  • ใบส่งของ เพื่อยืนยันว่าของถูกส่งมาครบตามจำนวน
  • ใบแจ้งหนี้ เพื่อใช้บันทึกยอดเงินที่ต้องจ่าย

การตรวจสอบแบบ 3-Way matching คือการตรวจสอบว่าข้อมูลในเอกสารใบสั่งซื้อ ใบส่งของ และใบแจ้งหนี้ตรงกันหรือไม่ เพื่อป้องกันการบันทึกหนี้ผิดพลาดหรือจ่ายเงินซ้ำซ้อน รายละเอียดที่ต้องตรวจสอบมีดังนี้ วันที่ในเอกสาร เงื่อนไขการชำระเงิน (Credit Term) จำนวนสินค้า ราคา รวมถึงเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขาย หากพบความคลาดเคลื่อนจะต้องประสานกับฝ่ายจัดซื้อหรือผู้ขาย

การตั้งหนี้เจ้าหนี้

การตั้งหนี้เจ้าหนี้ เป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการทำงานของฝ่ายบัญชี มีหน้าที่บันทึกภาระหนี้สินของกิจการที่เกิดจากการซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ขายที่ยังไม่ได้ชำระเงิน การตั้งหนี้ที่ถูกต้องและเป็นระบบช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมภาระการจ่ายเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันหลายองค์กรเริ่มนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในการตั้งหนี้อัตโนมัติ โดยดึงข้อมูลจากเอกสารต่าง ๆ มาตรวจสอบและบันทึกหนี้อัตโนมัติ ช่วยลดภาระงานและลดความผิดพลาด

ตรวจสอบใบกำกับภาษีและจัดทำใบหัก ณ ที่จ่าย

การตรวจสอบใบกำกับภาษีและจัดทำเอกสารหัก ณ ที่จ่าย ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดอาจส่งผลต่อการยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) ได้โดยตรง

การตรวจใบกำกับภาษีมีเป้าหมายเพื่อยืนยันความถูกต้องของเอกสารภาษีจากผู้ขาย เช่น ตรวจสอบเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ชื่อบริษัท ยอดเงิน และอัตราภาษีให้ตรงกับใบสั่งซื้อและใบแจ้งหนี้ ต้องการตรวจใบกำกับภาษีอัตโนมัติ คลิกได้ที่นี้ เมื่อเอกสารภาษีผ่านการตรวจสอบแล้ว การจัดทำเอกสารหัก ณ ที่จ่ายเป็นหน้าที่ของฝ่ายบัญชีในการหักภาษีตามอัตราที่กฎหมายกำหนดก่อนจ่ายเงินให้ผู้ขาย การทำเอกสารหัก ณ ที่จ่ายอัตโนมัติ เข้าลิ้งค์เพื่อดูรายละเอียด

ควบคุมการจ่ายเงิน

การควบคุมและการบริหารการจ่ายเงินให้ตรงตามเวลาที่กำหนด ทั้งเรื่องของเวลาและความถูกต้องในการจ่ายเงิน เพราะการจ่ายเงินขององค์กรส่งผลต่อกระแสเงินสดและความน่าเชื่อถือของธุรกิจ ปัจจุบันหลายองค์กรเริ่มใช้ระบบ AI Automation หรือ RPA (Robotic Process Automation) เข้ามาช่วยควบคุมการจ่ายเงิน เช่น การแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลากำหนดชำระเงิน หรือช่วยในกระบวนการพิมพ์เช็ค เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ฝ่ายบัญชีทำงานได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และลดความผิดพลาดที่เกิดจากพนักงาน

ปัญหาที่เกิดขึ้นในงานบัญชีเจ้าหนี้

  • เอกสารไม่ครบ หรือข้อมูลไม่ตรงกัน ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยในงานบัญชี ยกตัวอย่างเช่น ใบสั่งซื้อ (PO) กับใบแจ้งหนี้ระบุไม่ตรงกัน ใบรับสินค้าหาย หรือใบกำกับภาษีไม่มีเลขผู้เสียภาษีที่ถูกต้อง
  • การบันทึกใบแจ้งหนี้ซ้ำหรือการจ่ายเงินซ้ำให้ผู้ขาย ซึ่งมักเกิดจากเจ้าหน้าที่คนละคนบันทึกข้อมูลใบแจ้งหนี้เดียวกันโดยไม่ตรวจสอบก่อนการอนุมัติ
  • คำนวณการหักภาษี ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่มผิดประเภทหรือผิดอัตรา อาจทำให้บริษัทเสียสิทธิ์ในการนำภาษีซื้อมาหักภาษีขาย
  • การจ่ายเงินล่าช้าบ่อยครั้งอาจส่งผลกระทบให้บริษัทเสียเครดิตกับคู่ค้า ขาดความเชื่อมั่น หรือยุติการให้บริการ
ปัญหาที่เกิดขึ้นในงานบัญชีเจ้าหนี้
บัญชีเจ้าหนี้อัตโนมัติ (AP Automation)

บัญชีเจ้าหนี้อัตโนมัติ (AP Automation)

การบริหารการเงินที่รวดเร็วและแม่นยำด้วยการทำงานบัญชีเจ้าหนี้อัตโนมัติ โดยทั่วไป AP Automation ครอบคลุมตั้งแต่

  • การอ่านข้อมูลจากใบแจ้งหนี้หรือใบกำกับภาษีอัตโนมัติ
  • การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารอัตโนมัติ
  • การตั้งหนี้และบันทึกลงระบบบัญชีโดยอัตโนมัติ
  • การสร้างเอกสารขออนุมัติจ่ายและพิมพ์เช็คอัตโนมัติ
  • การแจ้งเตือนวันครบกำหนดชำระ

กระบวนการทำงานเหล่านี้เกิดขึ้นจาก 3 เทคโนโลยี ได้แก่ RPA (Robotic Process Automation) OCR (Optical Character Recognition) และ AI Automation

RPA ในงานบัญชีเจ้าหนี้

เทคโนโลยีที่ทำงานซ้ำ ๆ แทนพนักงานบัญชี เช่น กรอกข้อมูล ตรวจสอบเอกสาร หรือส่งแจ้งเตือน เป็นต้น ตัวอย่างกระบวนการที่ RPA สามารถช่วยงานได้ เช่น ตรวจสอบข้อมูลจากระบบ ERP กับเอกสารใบสั่งซื้อ การตั้งหนี้ในระบบบัญชี หรือสร้างไฟล์สำหรับพิมพ์เช็คโดยดึงจากฐานข้อมูลของบริษัท เป็นต้น

บทบาทของ OCR กับฝ่ายบัญชี

OCR คือเทคโนโลยีแปลงข้อความจากภาพให้เป็นตัวอักษรดิจิทัลที่สามารถนำไปใช้งานต่อได้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งกับงานบัญชีเจ้าหนี้ เพราะเอกสารที่ได้รับจากผู้ขายเป็นเอกสารกระดาษ หรือไฟล์ PDF การใช้ OCR ช่วยให้บันทึกข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และรองรับการทำงานบัญชีอัตโนมัติ

บัญชีอัตโนมัติด้วย AI Automation

ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงคงหนีไม่พ้น AI Workflow Automation เครื่องมือที่ช่วยให้งานบัญชีเป็นอัตโนมัติตาม Workflow ที่กำหนดไว้ ตั้งแต่การรับเอกสาร ตรวจสอบ ไปจนถึงการแจ้งเตือนการชำระเงิน แต่มีข้อจำกัด โดยใช้ API เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

ตัวชี้วัด KPI ของฝ่ายบัญชีเจ้าหนี้

ตัวชี้วัด KPI ของฝ่ายบัญชีเจ้าหนี้

  • ระยะเวลาเฉลี่ยในการจ่ายหนี้ – ตัวชี้วัดนี้บอกว่าองค์กรใช้เวลากี่วันในการชำระเงินหลังจากได้รับใบแจ้งหนี้ เป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารกระแสเงินสดและการจัดการเครดิตเทอมกับคู่ค้า
    สูตรคำนวณ: ระยะเวลาเฉลี่ยในการจ่ายหนี้ = (ยอดหนี้ค้างชำระเฉลี่ย ÷ ยอดซื้อเครดิตทั้งหมด) × จำนวนวัน
  • ความถูกต้องของการตั้งหนี้ – KPI นี้ใช้วัดว่าบันทึกข้อมูลได้ถูกต้องกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับจำนวนใบแจ้งหนี้ทั้งหมดที่ได้รับ
    สูตรคำนวณ: ความถูกต้องของการตั้งหนี้ = (จำนวนใบแจ้งหนี้ที่ถูกต้อง ÷ จำนวนใบแจ้งหนี้ทั้งหมด) × 100
  • อัตราการจ่ายตรงเวลา – ตัวชี้วัดนี้สะท้อนถึงประสิทธิภาพของการควบคุมการจ่ายเงิน ว่าบริษัทสามารถชำระเงินให้คู่ค้าได้ตรงตามวันที่กำหนดกี่เปอร์เซ็นต์
    สูตรคำนวณ: อัตราการจ่ายเงินตรงเวลา = (จำนวนการจ่ายเงินที่ตรงเวลา ÷ จำนวนการจ่ายเงินทั้งหมด) × 100
Facebook
LinkedIn
x.com