3 Way Matching ตรวจสอบเอกสารบัญชี

การตรวจสอบเอกสารบัญชีและความสำคัญของ 3 Way Matching

หนึ่งในแนวทางการตรวจสอบเอกสารของฝ่ายบัญชีเจ้าหนี้ที่ได้รับการยอมรับคือ 3 Way Matching ซึ่งเป็นการตรวจสอบข้อมูลระหว่างเอกสาร PO, GRN และ Invoice เพื่อยืนยันว่าข้อมูลตรงกันทุกฝ่ายก่อนทำการจ่ายเงิน การทำ 3 Way Matching ช่วยลดโอกาสการจ่ายเงินผิดพลาด เช่น จ่ายเงินเกิน จ่ายซ้ำ หรือจ่ายเงินครบแล้วแต่ยังได้รับสินค้าไม่ครบถ้วน ซึ่งปัญหาเหล่านี้พบได้บ่อยในองค์กรที่ไม่มีระบบควบคุมเอกสารที่แข็งแรง เมื่อข้อมูลผ่านการตรวจสอบ รายการบัญชีที่บันทึกมีความน่าเชื่อถือ สามารถนำไปวิเคราะห์ วางแผน และคำนวณจุดคุ้มทุนได้อย่างแม่นยำ

ตรวจสอบเอกสาร

การตรวจสอบเอกสารคืออะไร

การตรวจสอบเอกสารบัญชี คือกระบวนการวิเคราะห์ เปรียบเทียบข้อมูล และตรวจสอบความถูกต้องจากเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าการบันทึกและจ่ายเงินถูกต้องและน่าเชื่อถือ การตรวจสอบเอกสารไม่ใช่แค่ฝ่ายบัญชีรับผิดชอบเท่านั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบควบคุมภายในองค์กร ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน

ทำไมต้องตรวจสอบเอกสาร

  1. การตรวจสอบเอกสารทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดซื้อ การรับสินค้า และการจ่ายเงิน มีข้อมูลตรงตามที่ตกลงไว้กับคู่ค้า
  2. หากไม่มีการตรวจสอบอย่างละเอียด อาจเกิดกรณีชำระเงินเกิน หรือจ่ายเงินซ้ำ
  3. ลดโอกาสการทุจริตภายในองค์กรหรือป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร
  4. การตรวจสอบเอกสารตั้งแต่ต้นทาง ช่วยให้ไม่ต้องย้อนกลับไปแก้ไขรายการบัญชี
  5. เมื่อข้อมูลธุรกรรมมีความน่าเชื่อถือ ผู้บริหารสามารถนำไปใช้ในเชิงบริหาร

3 Way Matching คืออะไร

3 Way Matching คือกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของการจัดซื้อก่อนจะบันทึกบัญชีหรืออนุมัติจ่ายเงิน โดยนำข้อมูลจากเอกสารทั้ง 3 มาเปรียบเทียบ ได้แก่ ใบสั่งซื้อ ใบรับสินค้า และใบแจ้งหนี้จากผู้ขาย เพื่อยืนยันว่าเอกสารมีรายละเอียดตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนสินค้า ราคา เงื่อนไขการชำระเงิน หรือวันที่ดำเนินรายการ แนวทางนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรฐานด้านการควบคุมภายในที่องค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

เปรียบเทียบกับ 2 Way Matching

  • 2 Way Matching เปรียบเทียบเอกสาร PO และ Invoice การตรวจรับสินค้าจริงไม่ต้องตรวจสอบเอกสาร ใช้เวลาในการดำเนินการเร็วกว่า 3 Way เหมาะกับธุรกิจงานบริการหรือซื้อสินค้าที่คงที่
  • ข้อดีของ 2 Way Matching คือกระบวนการรวดเร็ว และเหมาะกับองค์กรที่มีการจัดซื้อที่เป็นมาตรฐาน
  • 3 Way Matching เปรียบเทียบเอกสาร 3 อย่าง (PO + GRN + Invoice) มีการตรวจรับสินค้าจริงกับเอกสาร ระดับความรัดกุมสูง ใช้เวลาในการดำเนินการมากกว่า 2 Way
  • ข้อดี ยืนยันว่าได้รับสินค้าจริงตรงกับคำสั่งซื้อและยอดเงินที่จ่ายไป อีกทั้งยังรองรับการตรวจสอบภายในและภายนอกได้ดี

องค์ประกอบของการตรวจสอบเอกสารบัญชี

ใบสั่งซื้อ (PO)

ใบสั่งซื้อ หรือบางท่านเรียกว่า PO เป็นเอกสารที่ออกโดยฝ่ายจัดซื้อเพื่อระบุรายละเอียดการซื้อสินค้าหรือการใช้บริการ โดยข้อมูลสำคัญประกอบด้วย รายการสินค้า จำนวน ราคา เงื่อนไขการชำระเงิน และวันที่จัดส่งสินค้า จุดประสงค์หลักของเอกสารนี้เพื่อยืนยันข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อ (บริษัท) กับผู้ขาย และใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบเอกสารของงานบัญชีเจ้าหนี้

ใบรับสินค้า (GRN)

ใบรับสินค้า หรือบางท่านเรียกว่า GRN เป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายคลังสินค้า หรือแผนกที่ได้รับมอบสินค้า เพื่อยืนยันว่ามีการรับสินค้าจริงในปริมาณที่ตรงกับใบสั่งซื้อ รายละเอียดในใบรับสินค้าจะระบุจำนวนสินค้าที่ได้รับ วันที่รับสินค้า และเงื่อนไขตามที่ตกลง หากได้รับไม่ครบหรือสินค้าเสียหาย เอกสารนี้จะเป็นหลักฐานสำคัญในการแจ้งกลับไปยังฝ่ายจัดซื้อเพื่อดำเนินการแก้ไข

ใบแจ้งหนี้ (Invoice)

ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เป็นเอกสารที่ผู้ขายสร้างขึ้นเพื่อเรียกเก็บเงินกับผู้ซื้อ (บริษัท) โดยระบุจำนวนเงินที่ต้องชำระ พร้อมรายละเอียดของสินค้าหรือบริการ รวมถึงเวลาที่ต้องชำระเงิน ใบแจ้งหนี้มีความสำคัญในงานบัญชีเจ้าหนี้ เนื่องจากเป็นเอกสารที่ใช้ในการบันทึกภาระหนี้ขององค์กร การควบคุมใบแจ้งหนี้อย่างเป็นระบบจะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน และเป็นส่วนสำคัญของ 3 Way Matching

องค์ประกอบ ตรวจสอบเอกสารบัญชี
ขั้นตอนการตรวจเอกสารบัญชีเจ้าหนี้

ขั้นตอนการตรวจเอกสารบัญชีเจ้าหนี้

  1. ตรวจสอบใบสั่งซื้อ – ตรวจว่ามีการอนุมัติจากผู้มีอำนาจหรือไม่, ตรวจสอบรายละเอียดสินค้า จำนวน ราคา และเงื่อนไข, ยืนยันว่ามีการสั่งซื้อผ่านขั้นตอนขององค์กรเรียบร้อย
  2. ตรวจสอบข้อมูลจากใบรับสินค้า – ตรวจว่าสินค้าได้รับจริงตามที่ระบุในเอกสาร PO, หากสินค้าได้รับไม่ครบ ต้องระบุและแจ้งกลับฝ่ายจัดซื้อ, ตรวจวันที่รับสินค้า
  3. เปรียบเทียบกับใบแจ้งหนี้ – ตรวจสอบว่ามีการเรียกเก็บตามจำนวนสินค้าจริง, ราคาและเงื่อนไขการชำระเงินตรงกับเอกสาร PO
  4. ตรวจสอบความตรงกันตามเกณฑ์ 3 Way Matching – เปรียบเทียบข้อมูลจาก 3 เอกสาร เช่น จำนวนสินค้า มูลค่ารวม หรือวันที่ทำรายการ เป็นต้น
  5. หากพบความคลาดเคลื่อน ให้ส่งเรื่องให้แผนกที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เช่น PO ติดต่อฝ่ายจัดซื้อ, GRN ติดต่อฝ่ายคลังสินค้า, ส่วนใบแจ้งหนี้ติดต่อผู้ขาย
  6. บันทึกรายการลงระบบบัญชีเจ้าหนี้ และระบุวันครบกำหนดชำระเงิน
  7. จัดเตรียมเอกสารให้ผู้ที่มีอำนาจเซ็น และส่งต่อให้กับฝ่ายการเงินหรือบัญชีชำระเงิน
  8. จัดเก็บเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบจัดเก็บเอกสาร (DMS) หรือเก็บไว้ใน Cloud

กรณีศึกษาของการทำ 3 Way Match

3 Way Matching เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการจัดซื้อและการรับสินค้าเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น โรงงานผลิตหรือธุรกิจค้าปลีก ก่อนเริ่มใช้ระบบนี้มักพบเจอปัญหาที่คล้ายกัน ได้แก่ มีการเรียกเก็บเงินไม่ตรงกับราคาที่ตกลง หรือการรับสินค้าไม่ครบจำนวน ส่งผลให้ต้องเสียเวลาตรวจสอบย้อนหลัง เมื่อบริษัทเปลี่ยนระบบเป็น 3 Way Matching กระบวนการตรวจสอบข้อมูลก่อนจ่ายเงินมีมาตรฐานมากขึ้น

ปัญหาจากกรณีไม่ตรวจเอกสารบัญชี

  • จ่ายเงินก่อนรับสินค้า ทำให้บริษัทต้องรับความเสี่ยงหากผู้ขายไม่ส่งสินค้า
  • จ่ายเกินจำนวนตามที่สั่งซื้อจากราคาที่ไม่ตรงกับข้อตกลง
  • จ่ายเงินซ้ำจากใบแจ้งหนี้เดียวกัน (ในช่วงเวลาที่ต่างกัน)
  • เพิ่มภาระงานของฝ่ายบัญชีในการแก้ไขย้อนหลัง
  • ข้อมูลต้นทุนไม่ถูกต้อง ส่งผลกับการต่อรองซัพพลายเออร์ และวางแผนงบประมาณ

ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ 3 Way Matching

  • โรงงานผลิต: ควบคุมปริมาณวัตถุดิบและตรวจสอบต้นทุนการผลิต
  • ธุรกิจค้าปลีกและ e-Commerce: ลดความผิดพลาดในการรับสินค้าเข้าคลัง
  • ธุรกิจนำเข้าและส่งออก: ตรวจสอบความสอดคล้องของเอกสารหลายชุดก่อนจ่ายเงิน
  • ก่อสร้าง: ควบคุมการเบิกจ่ายค่าวัสดุและงานบริการเป็นงวด ๆ
  • โรงแรมและร้านอาหาร: ควบคุมการสั่งซื้อวัตถุดิบที่หมดอายุในเวลาอันสั้น หรือมีรอบการสั่งหลายครั้ง

เทคโนโลยีที่ช่วยให้งาน 3 Way Matching เป็นอัตโนมัติ

  • RPA (Robotic Process Automation) ตรวจสอบเอกสารและประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ
  • OCR (Optical Character Recognition) แปลงข้อมูลจากเอกสารกระดาษหรือไฟล์รูปภาพให้เป็นข้อมูลดิจิทัล เพื่อใช้ในขั้นตอนตรวจสอบข้อมูล
  • ERP (Enterprise Resource Planning) รวบรวมข้อมูลจากฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายคลังสินค้า และฝ่ายบัญชีไว้ในระบบเดียว
เทคโนโลยีที่ช่วยให้งาน 3 Way Matching เป็นอัตโนมัติ
แนวทางการปรับปรุงการตรวจเอกสารบัญชี

แนวทางการปรับปรุงการตรวจเอกสารบัญชีให้มีประสิทธิภาพ

  1. จัดทำ Flow การตรวจสอบอย่างชัดเจนและมีเอกสารอ้างอิง
  2. แยกหน้าที่ของแต่ละฝ่ายให้เหมาะสม เช่น ฝ่ายจัดซื้อเป็นผู้อนุมัติการสั่งซื้อ หรือฝ่ายคลังสินค้าตรวจและรับสินค้า
  3. นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานซ้ำซ้อน เช่น ใช้ RPA ตรวจสอบความผิดปกติของเอกสาร หรือ OCR ดึงข้อมูลจากเอกสารสแกน
  4. สร้าง List การตรวจเอกสาร เช่น ตรวจจำนวนยอดเงิน จำนวนสินค้าที่ได้รับ หรือข้อมูลผู้ขาย
  5. อบรมบุคลากรด้านกระบวนการตรวจสอบและความรู้เรื่องเอกสารบัญชี
Facebook
LinkedIn
x.com