กระทบยอดอัตโนมัติ Bank Reconcile

Bank Reconcile คืออะไร? กระทบยอดบัญชีธนาคารอัตโนมัติด้วย RPA

Bank Reconcile หรือการกระทบยอดบัญชีธนาคาร คือกระบวนการเปรียบเทียบรายการเคลื่อนไหวทางการเงินในระบบบัญชีของกิจการกับรายการที่ปรากฏในบัญชีธนาคารจริง เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสองแหล่งข้อมูลตรงกัน และไม่มีความคลาดเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นยอดเงินเข้า ยอดเงินออก หรือยอดคงเหลือ กระบวนการนี้ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถควบคุมความถูกต้องของข้อมูลทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์ของการกระทบยอด

วัตถุประสงค์ของการกระทบยอดบัญชี

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทางบัญชี

เพื่อให้มั่นใจว่ารายการเงินฝาก ถอน และเคลื่อนไหวต่างๆ ที่บันทึกในระบบนั้นตรงกับข้อมูลจากธนาคาร ไม่ตกหล่นหรือซ้ำซ้อน

ช่วยตรวจจับข้อผิดพลาดหรือความผิดปกติ

ไม่ว่าจะเกิดจากการป้อนข้อมูลผิด การโอนเงินซ้ำ หรือแม้แต่การทุจริต การกระทบยอดจะช่วยให้สามารถระบุและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

เพิ่มความแม่นยำในการบริหารจัดการเงินสด

เมื่อรู้ยอดเงินที่แท้จริง องค์กรจะสามารถวางแผนการใช้จ่าย การลงทุน และการบริหารกระแสเงินสดได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบบัญชี

การมีกระบวนการกระทบยอดอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้การตรวจสอบภายในหรือจากผู้สอบบัญชีภายนอกเป็นไปอย่างโปร่งใส และรวดเร็ว

ข้อมูลที่ใช้ทำ Bank Reconcile

การทำ Bank Reconcile ให้แม่นยำ จำเป็นต้องมีข้อมูลจากทั้งฝั่งกิจการและธนาคาร ข้อมูลที่ใช้ไม่ใช่แค่ตัวเลขยอดเงิน แต่รวมถึงรายละเอียดของแต่ละรายการ และสถานะของธุรกรรมในช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องด้วย การมีข้อมูลครบถ้วนจะช่วยลดข้อผิดพลาด และประหยัดเวลาในการตรวจสอบ

รายงานเดินบัญชีจากธนาคาร

รายงานเดินบัญชีจากธนาคาร Bank Statement

รายงานเดินบัญชี หรือ Bank Statement คือเอกสารที่ธนาคารออกให้แก่ลูกค้า ซึ่งสรุปรายการเคลื่อนไหวของบัญชี ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก เงินโอน การตัดบัญชีเช็ค หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ รายงานนี้ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นที่สุดในการกระทบยอดบัญชี เพราะเป็นหลักฐานโดยตรงจากธนาคารที่ใช้อ้างอิงความถูกต้องของรายการที่เกิดขึ้นจริง

ข้อมูลบันทึกรายการเงินเข้า-ออก

ข้อมูลบันทึกรายการเงินเข้าและเงินออกในระบบบัญชีขององค์กร เป็นอีกด้านหนึ่งที่ต้องนำมาเปรียบเทียบกับ Bank Statement ข้อมูลเหล่านี้จะบันทึกการเคลื่อนไหวของเงินทุกครั้งที่มีการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน

ข้อมูลบันทึกรายการเงินเข้า-ออก

รายการค้างรับและค้างจ่าย

รายการค้างรับและค้างจ่าย คือรายการที่กิจการรับรู้ไว้ในบัญชีแล้ว แต่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวเงินจริงในบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดเงินในระบบบัญชีไม่ตรงกับยอดในบัญชีธนาคาร ดังนั้นในการกระทบยอดจึงต้องพิจารณารายการเหล่านี้อย่างรอบคอบ เพื่อแยกแยะว่าเป็นความคลาดเคลื่อนจริงหรือเป็นเพียงรายการที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง

เช็คที่ยังไม่ขึ้นเงิน

เช็คที่องค์กรได้นำส่งให้แก่คู่ค้า พนักงาน หรือบุคคลภายนอกแล้ว แต่ยังไม่มีการนำเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคาร รายการนี้อาจปรากฏในบัญชีของกิจการว่าเงินได้ถูกจ่ายออกไปแล้ว แต่ยอดเงินยังคงอยู่ในบัญชีธนาคารจนกว่าผู้รับเช็คจะไปดำเนินการ ในกระบวนการกระทบยอด จะต้องบันทึกรายการนี้ไว้เป็นรายการรอเคลียร์ และตรวจสอบเป็นระยะว่าเช็คนั้นมีการขึ้นเงินภายหลังหรือไม่

เงินฝากที่ยังไม่แสดงในบัญชีธนาคาร

เงินสดหรือเช็คที่กิจการนำฝากไปที่ธนาคารแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏในรายงาน Bank Statement เช่น การฝากในช่วงเย็น หรือฝากในวันหยุดธนาคาร ซึ่งรายการเหล่านี้จะทำให้ยอดเงินในบัญชีของกิจการมากกว่ายอดที่แสดงในธนาคารชั่วคราว รายการเหล่านี้ควรถูกบันทึกไว้ในระบบอย่างชัดเจน และทำเครื่องหมายว่าอยู่ระหว่างรอปรากฏใน Bank Statement

วิธีตรวจสอบงบกระทบยอดเงินฝากธนาคาร

การตรวจสอบสามารถแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การเตรียมข้อมูล การเปรียบเทียบรายการ การบันทึกรายการปรับปรุง และการจัดทำรายงานสรุปผลกระทบยอดบัญชี รายละเอียดของแต่ละขั้นตอนมีดังนี้

1

การเตรียมข้อมูล

ก่อนเริ่มตรวจสอบ ผู้ที่รับผิดชอบต้องรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน โดยเฉพาะข้อมูลจากทั้งฝั่งธนาคารและฝั่งกิจการ รายการข้อมูลที่ต้องเตรียมประกอบด้วย

  • รายงานเดินบัญชีจากธนาคาร
  • รายการบันทึกบัญชีจากระบบของกิจการ
  • รายการค้างรับ ค้างจ่าย
2

การเปรียบเทียบรายการ

หลังจากมีข้อมูลครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปรียบเทียบรายการเคลื่อนไหวระหว่างบัญชีธนาคารกับบัญชีของกิจการ รายการที่ควรตรวจสอบเพิ่มเติม เช่น รายการรับเงินจากลูกค้าที่ยังไม่ปรากฏในธนาคาร หรือรายการบันทึกซ้ำซ้อนในระบบบัญชีของกิจการ

3

การบันทึกรายการปรับปรุง

เมื่อพบความแตกต่างระหว่างยอดบัญชีธนาคารและบัญชีของกิจการ ต้องพิจารณาว่ารายการใดจำเป็นต้องปรับปรุงหรือบันทึกเพิ่มเติมในระบบบัญชีเพื่อให้ยอดทั้งสองฝั่งสอดคล้องกัน ทุกการบันทึกปรับปรุงควรมีหลักฐานหรือคำอธิบายประกอบ และผ่านการอนุมัติจากผู้มีอำนาจ เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้หากมีข้อสงสัย

4

การทำรายงานกระทบยอดบัญชี

ขั้นตอนสุดท้ายคือการจัดทำรายงานกระทบยอดบัญชีธนาคาร รายงานควรประกอบด้วย

  • ยอดคงเหลือตาม Bank Statement
  • รายการเงินฝากที่ยังไม่ปรากฏในธนาคาร
  • รายการเช็คที่ยังไม่ขึ้นเงิน
  • รายการปรับปรุงที่บันทึกในระบบบัญชี

ยอดคงเหลือหลังปรับปรุงของกิจการ ซึ่งควรเท่ากับยอดธนาคาร

ปัญหาที่พบบ่อยในการกระทบยอด

ปัญหาที่พบบ่อย

การบันทึกยอดผิด

การบันทึกยอดผิดในระบบบัญชีเป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุด เช่น ใส่ยอดไม่ตรงกับรายการจริง หรือบันทึกฝั่งเดบิตแทนเครดิต ความผิดพลาดเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่เมื่อกระทบกับยอดคงเหลือปลายงวดจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนอย่างชัดเจน

รายการขาดหาย

บางครั้งรายการรับหรือจ่ายเงินที่เกิดขึ้นจริง กลับไม่มีการบันทึกในระบบบัญชี หรือไม่ได้ปรากฏใน Bank Statement ตามช่วงเวลาที่คาดไว้ ตัวอย่างเช่น การรับเงินสดที่ยังไม่ได้ฝากเข้าธนาคาร หรือเงินที่ลูกค้าโอนมาจริงแต่ยังไม่ลงในบัญชี

ค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ย

ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการธนาคาร เช่น ค่าบริการโอนเงิน ค่ารายปี หรือดอกเบี้ยรับ/ดอกเบี้ยจ่ายจากบัญชีธนาคาร มักถูกหักหรือจ่ายอัตโนมัติโดยธนาคาร ซึ่งถ้าไม่ได้รับการบันทึกในระบบบัญชีของกิจการ ก็จะทำให้เกิดความแตกต่างของยอดโดยไม่ทราบสาเหตุ

เช็คหมดอายุหรือเช็คไม่ผ่าน

กรณีเช็คที่ออกไปแล้วแต่ไม่ได้ขึ้นเงิน หรือเช็คที่ถูกธนาคารปฏิเสธการจ่าย เช่น เช็คหมดอายุ หรือมีข้อผิดพลาดด้านลายเซ็นหรือจำนวนเงิน ในระบบบัญชีมักจะบันทึกว่าได้จ่ายเงินไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงยอดเงินนั้นยังคงอยู่ในธนาคาร

Bank Reconcile อัตโนมัติด้วย RPA

ในยุคที่ธุรกิจต้องรับมือกับปริมาณข้อมูลและธุรกรรมทางการเงินจำนวนมาก การทำ Bank Reconcile ด้วยมือแบบเดิมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ความล่าช้า ความผิดพลาดจากการบันทึก และภาระงานของฝ่ายบัญชีล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้หลายองค์กรหันมาใช้โปรแกรมหรือระบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยในการกระทบยอดบัญชี

เหตุผลที่ควรใช้ RPA กระทบยอด

เหตุผลที่ควรใช้ RPA กระทบยอด

  • ลดเวลาการทำงานซ้ำซ้อน: ระบบสามารถจับคู่รายการทางบัญชีและรายการจากธนาคารโดยอัตโนมัติภายในไม่กี่วินาที
  • เพิ่มความแม่นยำในการกระทบยอด: ระบบสามารถตรวจจับความแตกต่างของยอดเงิน และแจ้งเตือนรายการที่ไม่ตรงกันทันที
  • รองรับข้อมูลจำนวนมาก: เหมาะกับองค์กรที่มีหลายบัญชีธนาคาร หรือมีรายการเคลื่อนไหวรายวันจำนวนมาก
  • เชื่อมต่อกับระบบอื่นในองค์กรได้: ไม่ว่าจะเป็น ERP, ระบบบัญชี, หรือระบบลูกหนี้เจ้าหนี้อัตโนมัติ การเชื่อมโยงข้อมูลช่วยให้กระบวนการทำงานราบรื่นและลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น

ตัวอย่างการใช้ RPA กับ Bank Reconcile

  • ทุกวัน RPA ดึง Bank Statement จากระบบธนาคาร จากนั้นโปรแกรม RPA จะนำข้อมูลเข้าระบบบัญชีหรือ Excel เพื่อเตรียมเปรียบเทียบรายการ
  • RPA ทำการจับคู่รายการเงินเข้า-ออก จาก Bank Statement กับระบบบัญชี โดยใช้กฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
  • หากพบรายการที่ไม่ตรงกัน โปรแกรมจะแจ้งเตือนอัตโนมัติ ไปยังเจ้าหน้าที่บัญชีพร้อมแนบหลักฐาน
  • โปรแกรม RPA สามารถสร้างรายงานการกระทบยอดโดยอัตโนมัติ และส่งอีเมลให้กับหัวหน้าหรือผู้บริหาร
ตัวอย่างการใช้ RPA กับ Bank Reconcile
Facebook
LinkedIn
x.com

บทความอื่นที่น่าสนใจ

บันทึกรายรับรายจ่ายอัตโนมัติ

บันทึกรายรับรายจ่าย

โปรแกรมที่ทำงานอัตโนมัติทำให้กระบวนการจัดการข้อมูลทางการเงินและบัญชีบันทึกข้อมูลแบบเรียลไทม์

ระบบบัญชี RPA

ระบบบัญชี

กระบวนการและเครื่องมือที่ใช้บันทึกรายการธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของบริษัท

บทความหุ่นยนต์นักบัญชี เปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงาน

หุ่นยนต์นักบัญชี

เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานของนักบัญชี