OCR PDF เป็นเทคโนโลยีสำคัญในการจัดการเอกสารในยุคดิจิทัล ปัจจุบันธุรกิจต่างๆ เลือกใช้ไฟล์ PDF เป็นรูปแบบมาตรฐานในการจัดเก็บและส่งต่อข้อมูล เนื่องจากไฟล์ PDF มีจุดเด่นด้านความปลอดภัยและการคงรูปแบบของเอกสารให้เหมือนต้นฉบับไม่ว่าจะเปิดด้วยอุปกรณ์ใด ไฟล์ PDF ที่สร้างจากการสแกน ถ่ายรูปหรือถ่ายเอกสาร จะอยู่ในรูปแบบของไฟล์ภาพ ส่งผลให้ไม่สามารถแก้ไขหรือค้นหาข้อความในไฟล์ได้ ปัญหานี้นำไปสู่ความต้องการใช้ OCR PDF หรือเทคโนโลยีการรู้จำอักขระจากภาพในไฟล์ PDF
บทความนี้จะนำเสนอข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับ OCR PDF ตั้งแต่ความหมาย การเปรียบเทียบประเภทของไฟล์ PDF ขั้นตอนการแปลงข้อมูลด้วย OCR รวมถึงข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณา เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมกับลักษณะของงาน
OCR PDF หมายถึง การใช้เทคโนโลยี Optical Character Recognition กับไฟล์ PDF เพื่อแปลงข้อมูลจากรูปภาพหรือเอกสารสแกนภายใน PDF ให้กลายเป็นข้อความที่สามารถค้นหาและแก้ไขได้ กระบวนการนี้ได้รับความนิยมในงานเอกสารของธุรกิจ งานกฎหมาย รวมถึงการบริหารงานทั่วไปที่ต้องการแปลงข้อมูลจากเอกสารกระดาษสู่ดิจิทัล
OCR ย่อมาจาก Optical Character Recognition เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการอ่านและแปลงข้อมูลตัวอักษรที่อยู่ในรูปแบบของภาพ เช่น ไฟล์เอกสารที่ถูกสแกน หรือไฟล์ PDF ที่สร้างขึ้นจากรูปภาพ ให้กลายเป็นข้อความดิจิทัล ซึ่งสามารถนำไปแก้ไข หรือคัดลอกได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
PDF เป็นรูปแบบไฟล์เอกสารที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Adobe โดยมีจุดเด่นในการรักษารูปแบบให้เหมือนกันทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเปิดจากคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ผู้ใช้จะเห็นเอกสารในรูปแบบเดียวกันเสมอ ไม่เกิดปัญหารูปแบบเพี้ยนเหมือนกับไฟล์เอกสารทั่วไป เช่น Word หรือ Excel
PDF แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้
ขั้นตอนการแปลงไฟล์ PDF ที่เป็นรูปภาพหรือเอกสารสแกนให้เป็นข้อความโดยใช้เทคโนโลยี Optical Character Recognition มีดังนี้
การใช้เทคโนโลยี OCR กับไฟล์ PDF ในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยเพิ่มศักยภาพในการจัดการข้อมูลและเอกสารดิจิทัล แต่การใช้งาน OCR กับ PDF มีทั้งข้อดีที่โดดเด่นและข้อจำกัดที่ควรระมัดระวัง ดังนี้
OCR PDF สมัยใหม่ส่วนใหญ่สามารถรองรับเอกสารที่มีหลายภาษาในไฟล์เดียวได้ โดยเฉพาะหากใช้โปรแกรมที่มีระบบเลือกภาษาหลายภาษาแบบอัตโนมัติ เช่น ABBYY FineReader, Adobe Acrobat หรือ OrangeVision Form+ ซึ่งสามารถตั้งค่าให้ตรวจจับและแปลงข้อความในเอกสารที่มีทั้งภาษาไทย อังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ในหน้าเดียวกันได้ อย่างไรก็ตาม ความแม่นยำอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณภาพของต้นฉบับ
การใช้ OCR PDF จะเน้นการดึงข้อความออกจากไฟล์ PDF ที่เป็นรูปภาพหรือเอกสารสแกน ส่วนใหญ่แล้วข้อมูลข้อความที่ถูกแปลงจะอยู่ในรูปแบบเรียบง่าย หากเอกสารต้นฉบับมีการจัดวางซับซ้อน เช่น ตาราง กราฟิก หรือจัดข้อความเป็นคอลัมน์ โปรแกรม OCR อาจไม่สามารถรักษารูปแบบการจัดวางดั้งเดิมได้อย่างสมบูรณ์ ข้อความที่แปลงได้จะอยู่ในรูปแบบข้อความปกติ และอาจต้องมีการจัดรูปแบบใหม่ในโปรแกรมแก้ไขข้อความ เช่น Microsoft Word หรือ Google Docs เพื่อให้เอกสารใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด สำหรับบางโปรแกรม OCR ที่มีฟีเจอร์ขั้นสูง จะสามารถคงรูปแบบได้ดีขึ้น แต่ก็ยังแนะนำให้ตรวจสอบและแก้ไขก่อนนำไปใช้งานจริง
ข้อจำกัดหลักของการใช้ OCR PDF กับเอกสารที่มีภาพหรือกราฟิกประกอบ คือ OCR จะดึงเฉพาะส่วนที่เป็นข้อความเท่านั้น ไม่สามารถแปลงหรือดึงข้อมูลจากภาพ กราฟิก โลโก้ หรือไดอะแกรมต่างๆ ออกมาเป็นข้อความได้โดยตรง หากเอกสารมีการวางข้อความทับกับภาพหรือมีองค์ประกอบกราฟิกซับซ้อน อาจทำให้ OCR อ่านข้อความได้ไม่ครบถ้วน หรือแปลงข้อความผิดเพี้ยนไป นอกจากนี้ เอกสารบางประเภท เช่น ใบแจ้งหนี้ ตาราง หรือแบบฟอร์มที่มีช่องกรอกข้อมูล อาจต้องใช้โปรแกรม OCR ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับงานรูปแบบนี้ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการสกัดข้อมูลจากเอกสาร
ช่องทางติดต่อ
ที่อยู่: 43 ไทยซีซีทาวเวอร์ ชั้น 11 ห้อง 111 ถ.สาทรใต้
แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
โทร: 084-324-2749, 02-563-6187
Social Media
Copyright © 2025 KSP AsiaFIN Co., Ltd. All Rights Reserved.